“หัวใจ” เป็นอวัยวะสำคัญที่แสดงถึงการมีชีวิตรองจากสมอง ที่กล้าพูดเช่นนี้ก็เพราะว่า บางครั้งหัวใจยังเต้นอยู่ แต่…สมองตายแล้ว! และอีกไม่นาน เมื่อหัวใจหยุดเต้น เราก็จะ “ตาย” ตามไปด้วย
ปี 2553 โรคหัวใจ เป็นสาเหตุการตายอันดับ 3 และยังครองอันดับมาจนถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกับจำนวนของผู้ป่วยด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
141,197 ราย คือตัวเลขในปี 2553…!
คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า ภาวะหัวใจล้มเหลว คือ ภาวะหัวใจวาย แต่จริงๆแล้ว หัวใจล้มเหลว กับหัวใจวาย เป็นคนละเรื่องกัน…!!
คนที่หัวใจวาย...มักมีอาการของหัวใจล้มเหลวสะสมมาก่อนเป็นเวลานาน ซึ่งอาจเกิดจากประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลงของกล้ามเนื้อหัวใจ โครงสร้างของหัวใจที่ผิดปกติ หรืออาจจะมีอาการป่วยของโรคหลอดเลือดหัวใจ ความดันโลหิตสูง กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือแม้แต่หัวใจเต้นผิดจังหวะ
นพ.คริสโตเฟอร์ เดอ ฟิลิเป้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สาขาอายุรศาสตร์ มหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ สหรัฐอเมริกา อธิบายให้ฟังอย่างง่ายๆว่า บางครั้งคนที่เป็นกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด อาจจะยังไม่มีอาการของภาวะหัวใจล้มเหลว ซึ่งอาจจะใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปีกว่าที่จะแสดงอาการ แต่เมื่อแสดงอาการแล้ว การรักษาก็จะทำได้ยากขึ้น และไม่สามารถทำให้หัวใจกลับมาเป็นปกติได้อีก
แล้วอาการของ “ภาวะหัวใจล้มเหลว” เป็นอย่างไร?
คุณหมอเกรียงไกร เฮงรัศมี หัวหน้ากลุ่มงานอายุรศาสตร์หัวใจ สถาบันโรคทรวงอก ตอบสั้นๆง่ายๆว่า หายใจไม่เต็มอิ่ม… ที่รวมถึง อาการอ่อนล้า อ่อนเพลีย หายใจถี่ หรือหายใจตื้น ถอนหายใจบ่อย ๆ เหนื่อยมากกว่าปกติเวลาออกกำลังกาย บางคนมีอาการไอตลอดเวลา ซึ่งถ้ามีอาการทั้งหลายทั้งปวงที่ว่านี้แล้ว ทำใจได้เลยว่า คุณกำลังมีภาวะหัวใจล้มเหลวที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง
ภาวะหัวใจล้มเหลว เกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อหัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายได้อย่างเพียงพอ เมื่อถ่ายภาพหัวใจจะพบว่า หัวใจของคนที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวจะมี ขนาดโตกว่าหัวใจปกติ เนื่องจากกล้ามเนื้อหัวใจต้องทำงานหนักกว่าปกติ
คุณหมอคริสโตเฟอร์ บอกว่า ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่สามารถตรวจหาภาวะหัวใจล้มเหลวได้จากโปรตีนที่หลั่งออกมาจากหัวใจสู่กระแสเลือด เรียกว่า NT-pro BNP ซึ่งเป็นโปรตีนที่บ่งชี้สภาพการทำงานของหัวใจ โปรตีนชนิดนี้จะหลั่งออกมาเมื่อหัวใจทำงานหนัก ซึ่งถ้ามีโปรตีนชนิดนี้ออกมามากเท่าไหร่ ก็หมายความว่า หัวใจกำลังทำงานหนักอย่างมากๆ และนั่นเป็นสัญญาณเตือนว่า คุณกำลังมีภาวะหัวใจล้มเหลว
จริงๆแล้วการตรวจหาโปรตีน NT-pro BNP นั้นทำได้ไม่ยาก ใช้เพียงการตรวจเลือดด้วยเทสต์ เครื่องมือซึ่งขณะนี้มีอยู่แล้วในหลายโรงพยาบาลแม้แต่โรงพยาบาลชุมชน ค่าตรวจต่อครั้งประมาณ 1,200 บาท ซึ่งหากเป็นคนไข้ในระบบประกันสุขภาพก็จะครอบคลุมด้วย
ถามว่าคุ้มหรือไม่ หากจะตรวจหาโปรตีนชนิดนี้คำตอบคือ คุ้มอย่างมาก เพราะหากปล่อยให้มีภาวะหัวใจล้มเหลวหรือป่วยด้วยโรคหัวใจ
แล้วค่ารักษาและการดูแลจะสูงกว่านี้หลายเท่า
ใครควรได้รับการตรวจหา NT-pro BNP คุณหมอเกรียงไกร บอกว่า แม้โรคนี้จะพบในผู้ป่วยที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ที่ส่วนใหญ่มักเป็นผู้ที่ป่วยแล้ว มีตัวเลขว่า 60% ของผู้ที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว จะเสียชีวิตภายใน 5 ปีหลังได้รับการวินิจฉัยโรค
การตรวจที่ดีจึงควรตรวจก่อนที่จะป่วย นั่นคือ ตรวจในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง ซึ่งก็คือ ผู้ชายที่อายุเกิน 35 ปี และผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน รวมทั้งผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ผู้ที่สูบบุหรี่ มีโรคอ้วน เป็นโรคไต มีคอเลสเทอรอลสูง ขาดการออกกำลังกาย ซึ่งถ้าตรวจได้ก่อนก็จะสามารถลดจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคหัวใจลงได้ หรือถ้าพบภาวะหัวใจล้มเหลวได้เร็วก็จะสามารถลดความเสี่ยงต่อการที่จะป่วยเป็นโรคหัวใจที่รุนแรงขึ้น จนนำไปสู่การเสียชีวิตได้ในอนาคต
วันแห่งความรัก 14 ก.พ.ปีนี้ ไปตรวจหา NT-pro BNP เพื่อดูแลหัวใจอย่าให้ป่วยกันดีกว่า.
ที่มา: ไทยรัฐ 11 กุมภาพันธ์ 2555